(เรื่องสอนใจ) หลวงตาปลูกกล้วยไม้ไว้ชม ไม่ได้ปลูกไว้ให้คนมาโกรธ
เ รื่ อ งเล่าจาก วัดแห่งหนึ่ง หลวงตาชอบปลูกต้นไม้ ด อ ก ไม้มาก
และท่านก็มีต้นกล้วยไม้ ปลูกไว้หลายกระถาง ท่านคอยรดน้ำ ดูแลเอาใจใส่
เป็น อ ย่ า ง ดี และคอยเฝ้ามองกล้วยไม้ออก ด อ ก งอกงามอยู่ทุกวัน
วันหนึ่งหลวงตามีกิจนิมนต์ ที่ต้องเดินทางไปต่างจังหวัด ใช้เวลาหลายวันกว่า
จะกลับ จึงฝากให้สามเณร ที่อยู่ในวัดช่วยดูแลต้นกล้วยไม้ เหล่านี้แทนหลวงตา
ซึ่งสามเณรก็ได้ดูแล รดน้ำต้นไม้ให้เป็น อ ย่ า ง ดี ทำแบ บนี้อยู่ทุกวันไม่เคยข า ด
สองวันต่อมา สามเณรต้องไปท ำ ธุ ร ะ ข้างนอกวัด และก่อนจะออกไป
ก็ได้นำต้นกล้วยไม้ ไปแขวนไว้ริมหน้าต่าง เพื่อให้ได้รับแสงแดด เมื่อสามเณร
ออกจากวัดไป จู่เมฆฝนก็เคลื่อนตัวมาปกคลุม บริเวณวัดจนครื้มไปหมด
ลมพัดแรงมาก จนทำให้กระถาง กล้วยไม้หล่น แ ต ก จนหมด เมื่อสามเณรกลับมา
ถึงวัด ก็ได้เห็นสภาพ กระถางกล้วยไม้ที่ตกกระจาย ระเนระนาดตามพื้น ก็ตกใจมาก
พลางคิดไปว่า หลวงตามาเห็นจะต้องถูกตำหนิแน่ เพราะหลวงตา รักกล้วยไม้เหล่านี้มาก
วันรุ่งขึ้น หลวงตากลับมาถึงวัด สามเณรก็รีบเดินเข้ามาหา หลวงตาด้วยความร้อนใจ
พร้อมกับเล่าความจริงให้ฟัง และเตรียมใจที่จะถูกว่าไว้แล้ว แต่เมื่อหลวงตาฟังจนจบ
ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร พร้อมกับบอกให้สามเณร ไปเก็บกวาดกระถาง ที่หล่นให้เรียบร้อย
สามเณรจึงยิ่งรู้สึก กังวลใจมากกว่าเดิม ที่ไม่ถูกหลวงตาตำหนิใดเลย พลางคิดว่า
หลวพ่อคงจะ โ ก ร ธ มาก จนไม่อย า กจะพูดอะไร สามเณรจึงถามหลวงตาว่า
ทำไมหลวงตาถึง ไม่ว่าอะไรสักคำเลย เพราะต้นกล้วยไม้เหล่านั้น หลวงตาเฝ้าดูแลมานาน
หลวงจึงหันไป ยิ้มให้สามเณร พร้อมกับตอบกลับมาว่า เพราะหลวงตาปลูก
กล้วยไม้ไว้ชม ไม่ได้ปลูกไว้เพื่อทำให้โ ก ร ธ ใคร เมื่อฟังเ รื่ อ งนี้ แล้วกลับมา
มองดูสังคมปัจจุบัน ก็ทำให้คิดได้ว่า คนเราสมัยนี้ช่างใจร้อนนัก เ รื่ อ งเล็กน้อย
ที่จะ อ ภั ย ให้กันได้แล้วก็จบกันไป กลับทำให้เป็นเ รื่ อ งราวใหญ่โต และสร้าง ปั ญ ห า
เพิ่มมากขึ้นไปอีก เวลามีอะไร นิดหน่อยไม่ถูกใจ ไม่พอใจ ก็ โ ว ย ว า ย ใส่กันซะแล้ว
ไม่ยอมฟังเหตุผลใคร จะมองแต่มุมตัวเอง อ ย่ า ง เดียว ว่าตัวเองนั้นถูกที่สุด
มันยิ่งทำให้ คนในสังคมเมื่อเกิด ปั ญ ห า ก็กระทบกระทั่งกันได้ง่าย คนเราเกิดมา
ต้องเคยทำผิด พลาดกันบ้าง ไม่มีใครจะทำถูกต้องไปหมดซะทุก อ ย่ า ง หรอก
เ รื่ อ งเล็กน้อยที่สามารถ ให้ อ ภั ย กันได้ ก็ควรจะทำ ตั ดไฟตั้งแต่ต้นลม อ ย่ า ปล่อยให้
ปั ญ ห า เล็ก กลายเป็นกองไฟ กองใหญ่ที่จะยิ่งทำให้ ดั บ ย า ก ตัวเรารู้อยู่เสมอ
ว่าเราเจอกับอะไรมา เราเข้าใจตัวเอง กับสิ่งที่ต้องเจอ และสิ่งที่ทำให้รู้สึเเย่
แต่เราไม่มีทางรู้เลยว่า คนอื่นเขาเจออะไรมา เขาถึงต้องเป็นแบบนั้น ทำ อ ย่ า ง นั้น
โลกไม่ได้หมุน รอบตัวเราคนเดียว ดังนั้นจงมองให้เห็นถึง ความรู้สึกของคนอื่นด้วย
ตอนคุณเป็นลูกค้า ไปซื้อของที่ร้านค้า คุณรู้สึกว่าร้านนี้ขายแพง อย า กได้กำไรเกินไป
ตอนคุณเป็น เจ้าของร้าน ขายของให้ลูกค้า คุุณรู้สึกว่าลูกค้าเ รื่ อ งมาก ของราคานี้
จะต่ออะไรมากมาย ตอนคุณเป็นลูกจ้าง คุณรู้สึกว่าเจ้านายเ รื่ อ งมาก ข ี้บ่น
เจ้ากี้เจ้าการ แถมยังข ี้เหนียวให้โบนัสน้อยอีก ตอนคุณเป็นเจ้านาย คุณรู้สึกว่า
ลูกน้อง ข ี้ เ กี ย จ ชอบอู้งาน ทำงานไม่คุ้มค่าจ้างที่จ่ายไป ตอนคุณขี่มอเตอร์ไซค์
คุณไม่ชอบ คนขับรถยนต์ แต่พอคุณขับรถยนต์ คุณกลับไม่ชอบ คนขับมอเตอร์ไซค์
มันไม่มีใครผิด หรือถูก แต่เราต่างยืนกันคนละจุด มองกันคนละด้าน เมื่อใดที่คุณเริ่มมอง
คนอื่นว่าไม่ดี ว่าถูกคนอื่นเอาเปรียบ ลองเปลี่ยนจุดที่ยืนดูสิ หากเขาในตอนนี้
คือคุณ คุณจะทำอ ย่ า ง นี้หรือไม่ เราทุกคนต่างมีความ โ ล ภ โ ก ร ธ ห ล ง
เป็นธรรมดา เมื่อคนอื่นทำให้เรารู้สึก โ ก ร ธ ควรให้ อ ภั ย เราทุกคนต่างมี
ความเห็นต่าง เมื่อเห็นคนอื่นคิดต่าง ควรยอมรับซึ่งกัน และกัน และ ปั ญ ห า จะลดลง
ขอขอบคุณที่มา นุสนธิ์บุคส์, parinyacheewit