Home ข้อคิด เมื่อสิ้นวาสนาต่อกัน ต่อให้รักกันมากแค่ไหน ก็ต้องจากกันไปอยู่ดี

เมื่อสิ้นวาสนาต่อกัน ต่อให้รักกันมากแค่ไหน ก็ต้องจากกันไปอยู่ดี

3 second read
0
0
383
เมื่อสิ้นวาสนาต่อกัน ต่อให้รักกันมากแค่ไหน ก็ต้องจากกันไปอยู่ดี

เมื่อสิ้นวาสนาต่อกัน ต่อให้รักกันมากแค่ไหน ก็ต้องจากกันไปอยู่ดี

เมื่อช่วงชีวิตหนึ่ง เราอาจจะได้เจอ คนรักที่ดี กับเราทุก อ ย่ า ง

แต่ด้วยบุญวาสนา ที่เราไม่ได้เกิดมาคู่กันเมื่อหมดบุญวาสนา ที่มีต่อกันสุดท้าย

เราก็ต้องเดินจากกันไป อยู่ดีวันนี้เรามีบทความมาเตือนใจ คนที่ยังมีความรักที่ดี

หมั่นสร้างบุญร่วมกัน ให้มากๆบางที ความรักก็เ ห มื อ นกับ การชดใช้ ก ร ร ม ร่วมกัน

เพราะใช่ว่าความรัก นั้นจะโรยไปด้วยกลีบกุหลาบเสมอไปบางคู่ แรก ๆ ก็รักกันดี

แต่พอมีปัญหา ก็กลายเป็น ไม่ถูกชะตากัน กลายเป็นคู่ แ ค้ น คู่ อ า ฆ า ต กันไป

ซะ อ ย่ า ง นั้นทั้ง ๆ ที่เคยรักกัน เพราะเมื่อถึงเวลาบางครั้ง คนเราก็ต้องแยก จากกันอยู่ดี

ต่อให้รู้สึกว่า ไม่ อ ย า ก จากแต่ถ้าความรู้สึก มันไม่ได้ทุก อ ย่ า ง มีแต่ทางตัน

ไปไหนต่อไม่ได้ ก็ต้องยอมรับมันอยู่ดีให้คิดเสียเวลา การเลิกรา จากกันไปนั้น

เหมือนเป็นการหมด เ ว ร หมด ก ร ร ม ต่อกัน จะได้ไม่ต้องผูกพันกันต่อหรือต้องมามีอะไร

ติ ด ค้างกันอีกต่อไป บางคู่ในช่วงเวลา ที่ยังรักกันนั้น มักจะมีแต่ปัญหาแทนที่จะมีความสุข

แต่กลับมีแต่ความ ทุ ก ข์ เรียกว่าเป็นความรัก ที่มีแต่ ก ร ร ม ร่วมกันเพราะฉะนั้น

หากคนเราหมด เ ว ร หมด ก ร ร ม ต่อกัน สุดท้ายยังไง ก็ต้องเลิกรากันไปอยู่ดีอาจเพราะหลาย อ ย่ า ง

ที่มาเป็นส่วนเสริม เช่นความไม่เข้าใจกัน การนอกใจ หรือทะเลาะ หรือเข้ากันไม่ได้

ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นสาเหตุ ให้คู่รักหลายๆ คู่เลิกกันไป และสุดท้ายก็แยกย้ายกัน

ไ ปตามทางใครทางมันเหมือนเป็น การจบสิ้น เ ว ร ก ร ร ม ที่มีต่อกันในชาตินี้

ว่ากันว่า ที่คนเราได้เจอกันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เพราะบุญ ก ร ร ม ที่เราได้ทำร่วมกัน

มาแต่ชาติก่อน แต่มีเหตุที่ต้องทำ ให้พรากจากกันก็ย่อมเป็นเรื่องธรรมดามีชายหญิงคู่หนึ่ง

รักกันมากคบกันมา 3 ปีตกลงจะแต่งงานกัน กำหนดวันเรียบร้อยฝ่ายชายเอง ก็รอคอยวันที่จะได้แต่งงาน

ต่อมาไม่นานฝ่ายชาย รู้ข่าวว่า คู่รักของตนแต่งงานกับคนอื่น อ ย่ า ง กะทันหัน

และฝ่ายหญิงเอ งก็เต็มใจไม่ได้ถูกบังคับ เขาทั้งงง และเสียใจมาก เอาแต่ร้องไห้ ไม่กินไม่นอน

ต่อมาก็ป่วยหนัก เพราะตรอมใจ เวลา ผ่ า น ไป ฝ่ายชายอาการทรุดลงเรื่อย ๆ

ไปหาหมอเท่าไหร่ ก็ไม่ดีขึ้นเลยต่อมา มีหลวงตา รูปหนึ่ง ผ่ า น มา เมื่อมาถึงหลวงตาหยุด

อยู่ที่หน้าบ้าน ของชายคนนั้น แล้วมองเข้าไป ในบ้านแล้วจึงเคาะประตู เ ด็ ก รับใช้ออกมา

เปิดประตูพบว่าเ ป็นพระจึงพูดว่า ไม่ทำบุญนิมนต์ ข้างหน้า หลวงต า ยิ้ม อ ย่ า ง มีเมตตา

และพูดว่า อาตมา ไม่ได้มาบิณฑบาตหรอก ในบ้านมีคนป่วยใช่ไหมอาตมาพอมีความรู้

ทางด้านการแพทย์นิดหน่อย อาจจะพอช่วยได้นะ เ ด็ ก รับใช้ได้ฟังก็อึ้งแต่ก็บอกว่าเดี๋ยว

ต้องไปถามเจ้านายก่อน เ ด็ ก รับใช้เดินเข้าไป ในบ้านถามเจ้านายเจ้านายตอบ อ ย่ า ง

ตัดรำคาญว่า อ ย า ก เข้า มาก็ให้เข้ามา เมื่อหลวงตาเข้าไป ที่ห้องนอนจึง พบว่าชายเจ้าของบ้าน

นอน อ ย่ า ง ห มดอาลัย ต า ย อ ย า ก อยู่สีหน้าซีดเซียว ร่างกายก็ซูบผอม ประหนึ่งครึ่ง คนครึ่งศ พ

เ ด็ ก รับใช้นำน้ำ มาถวายหลวงตาพร้อมจัดเก้าอี้ ถวายข้าง ๆ เตียงของชายผู้นั้น

หลวงตา ยิ้ ม และพูดว่า อาการหนักเลยนะ ชายคนนั้นก็เงียบไม่สนใจ ในสิ่งที่หลวงตาพูดหลวงตา

ตรวจอาการพอเ ป็นพิธีจึงกล่าวว่า  โทรมมากเลยนะ ชายคนนั้นก็ยังไม่สนใจ หลวงตาบอกว่า ไม่เชื่อก็มอง

ที่กระจกสิ ชายคนนั้นไม่สนใจ แต่หางตาก็ แลไปที่กระจก แต่งตัวใน ห้องนอนเขา

มองเห็นภาพของคนรัก ในนั้นไม่นานภาพของคนรั กก็ค่อย ๆ จางหายไป กลายเป็นภาพทิวทัศน์

ชายทะเล ที่แห่งนั้น เงียบสงบไม่มีคน ผ่ า น มา ขณะที่ชายคน ที่ ป่ ว ย มองภาพ ในกระจกด้วยความสนใจ

จึงพบว่า มีศ พ หญิงสาวนอน เปลือ ย กา ย อยู่ที่ชายหาดเวลา ผ่ า น ไป สักครู่มีชายคนหนึ่ง

เดิน ผ่ า น มาเขามองเห็น ศ พ หญิงคนนั้นด้วยความรังเกียจจึงเดิน ผ่ า น ไป อ ย่ า ง รวดเร็วต่อมาพักใหญ่

มีชายอีกคนเดิน ผ่ า น มาเขามองเห็นศ พเขาสงสา รจึงถอดเสื้อนอกออกมาคลุมร่างของหญิงคนนั้น

ให้และเดินจากไป พักใหญ่ ๆ อีกเช่นเคย มีชายอีกคนเดิน ผ่ า น มาเขาพบคนนอน มีผ้าคลุมอยู่จึง

เปิดดูเมื่อพบว่าเป็นศ พ ด้วยใจ ส ง ส า ร จึงจะฝัง ให้เรียบร้อย แต่ก็ไม่มี เครื่องมือจะขุดเขาจึงตัดสินใจ

ใช้มือทั้งสองข้าง ของเขาค่อย ๆ กอบทรายขึ้นมา เขาทำแบบนี้ เรื่อย ๆ จนถึงเย็น

พอได้หลุ ม ใ ห ญ่ พอ ส ม ควรจึงได้ฝัง ศ พ ผู้หญิงคนนั้น และจากไปจากนั้นภาพในกระจก

ก็เปลี่ยนเป็นภาพของศ พ หญิงคนนั้น และค่อยๆเปลี่ยน เป็นภาพของหญิ ง อดีตคนรัก

ของเขาเขาได้เห็นก็ตกใจ อยู่ครู่หนึ่ง กระจกก็ปรากฏเป็นภาพชาย คนที่ 2 แล้วก็ค่อยๆ จ างหายไป

เหลือแต่เงาของตนเอง ในกระจกขณะนั้นหลวงตาพูดว่า ทีนี้เข้าใจ หรือยังศ พ นั้น

คือคู่รักของโยม ชายคนที่ช่วย ฝังศ พ เธอผูกวาสนากับ เธอหนึ่งชาติชาตินี้ เธอเลยได้แต่งง า น

กับเขาส่วนโยมช่วยคลุม ศ พ เธอ จึงผูกวาสนา 3 ปี ตอนนี้ พอครบสามปี วาสนาสิ้นแล้ว

ก็ต้องจากกัน เมื่อชายคนนั้น ฟังจบก็กระอัก เ ลื อ ด ออกมา เ ด็ ก รับใช้ก็ตก หลวงต า ยิ้ ม

แล้วพูดว่า โยมรอดแล้วเมื่อกี้ โยมกระอักเลื อ ด เอาเลื อ ด เสียออกมา แล้วนะ

ต่อมาไม่นาน ชายคนนั้น ได้ออกบวช และ ติ ด ตามหลวงตา รูปนั้นในที่สุด เพราะคนเราเจอกัน

ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ความสัมพันธ์ พ่อ,แม่,พี่,น้อง,ญาติ,เพื่อน,คนรักฯลฯ ไม่ใช่ของเลื่อนลอย

เมื่อมีวาสนาไม่ต้องเรียกร้องใดๆ ถึงเวลาก็มาเจอกัน แต่หากสิ้นวาสนาคงต้องจากกันรั้งยังไงก็ไม่อยู่

ในตอนที่ยังอยู่ด้วยกัน คุณทำดี ต่อคนรอบข้าง ของคุณหรือยังเพราะถึงเวลา

ที่ต้องจากกัน ไม่ว่าคุณจะมีเงิน หรืออำนาจล้นฟ้าก็เรียกมันกลับคืนมาไม่ได้

ทำดีต่อกันไว้เถิด เพราะไม่มี ใครรู้ว่าเ ราจะต้องจากกัน ตอนไหน

ขอขอบคุณที่มา ยิ้มยิ้ม, fashionfuns

Check Also

ท่านอนของคุณ บ่งบอกนิสัยของคุณได้

ท่านอนของคุณ บ่งบอกนิสัยของคุณได้ 1 ท่านอนหงาย   ถ … …