Home ข้อคิด 9 ลักษณะมุมมองทัศนคติ เมื่อเริ่มโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่

9 ลักษณะมุมมองทัศนคติ เมื่อเริ่มโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่

6 second read
0
0
43
9 ลักษณะมุมมองทัศนคติ เมื่อเริ่มโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่

9 ลักษณะมุมมองทัศนคติ เมื่อเริ่มโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่

1 ดูแล สุ ข ภ า พ แบบจริงๆจัง

เรียกข้าว่าเศรษฐี เล่นครั้งแรก ก็มีเงินล้านในเกมได้ง่ายๆ คลิกเลยใจเราเนี่ยมันจะรู้สึกว่าตัวเองอ่อนกว่าอายุจริง 10-15 ปี ในขณะที่สุภาพของเราไปเร็วกว่าที่เราคิดไว้มาก ลองสังเกตดูเมื่อวัย 20 ต้นๆ คุณอาจอดหลับอดนอน 1-2 วัน เพื่อไปเที่ยวทำงานหนักหรือทำกิจก ร ร มต่ า ง ๆ ได้โดยไม่มีผลกระทบอะไร แต่เมื่อคุณอ า ยุ เ ริ่ มขึ้นเลข 3 แล้ว จะรู้เลยว่าหากใช้ ร่ างกายหนักๆจะเห็นผลกระทบแน่นอน บางคนกว่าจะรู้ตัวก็กลับมาแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว

2 เริ่มต้นเก็บเงินได้แล้ว ก่อนที่มันจะสายเกินไป

เรื่องการเงินมันไม่ใช่เรื่องตลกเลยใช่มั้ย เริ่มต้นวางแผนการเงินของตัวเอง และ วางแผนชีวิตหลังเกษียณได้แล้วตั้งแต่วันนี้เลยหลังจากดูแล สุ ข ภ า พ ร่ า ง ก า ย สุ ข ภ า พ จิตใจ ของตัวเองได้แล้ว ก็อย่ าลืมมาดูแล สุ ข ภ า พ ทางการเงินของคุณด้วย1 ทุกวันนี้ต้องกินต้องใช้ ถ้ายังไม่ได้หายใจออกออกมาเป็นแบงก์ร้อยแบงก์พันอย่ าฟุ่มเฟือย อย่ าสุรุ่ยสุร่าย 2 ให้ความสำคัญกับการใช้หนี้ที่มี ด อ กเบี้ยสูงให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะด อ กเบี้ยบ้านที่สูงอย่ า งมาก

3 แยกเงินสำรองไว้เผื่อกรณีฉุ ก เ ฉิ น เพราะ เราไม่รู้หรอกว่าในอนาคต เราจะเจอปัญหาแบบไหนบ้างสุขภาพการขึ้นโรงขึ้น ศ า ล เรื่องธุรกิจ หรือ อื่นๆที่ย ากจะคาดเดา4 อ ย่ าลงทุนในสิ่งที่คุณ ยังไม่เข้าใจมันดีพอ ให้เก็บเงินก้อนเอาไว้ก่อน ศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนลงมือทำธุรกิจอะไร อย่ าทำอะไรตามกระแส เช่น ร้านกาแฟ จากสถิติธรกิจร้านกาแฟที่คนนิยมเปิดในปัจจุบัน 9 ใน 10 ร้านเจ๊ง ตั้งแต่ปีแรก

3 อ ย่ า เ สี ยเวลากับคนที่ไม่ได้ใส่ใจ คุ ณ

ชีวิตของเรา ลองหัดปฏิเสธคนอื่น และพูดคำว่าไม่ออกไปบ้าง ถ้าหากบางครั้งเข้าร่วมกิจกร ร มหรือออกไปพบปะสังสรรค์กับผู้คนแล้วคุณก็รู้ว่า สุดท้ายแล้วไม่ได้ทำให้ชีวิตของคุณดีขึ้นเลย เพราะว่าทุกคนนั้นไม่คุ้มค่าพอที่จะเสียเวลาด้วย คุณก็หยุดตรงนี้ 1 ตอนที่อายุ 20 ปี โลกของเรานั้นได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆให้กับเรา เราได้ยึดติดและรู้จักกับทุกคนมากมาย 2 ตอนอายุ 20 ปี โลกก็บอกกับเราเอาไว้ว่า ความสัมพันธ์ดีๆเนี่ยมันหาย า กมากนะ ฉะนั้นแล้ว ถ้าเราได้เจอมัน ควรที่จะ รั ก ษ ามันไว้ แต่ถ้าเราเจอแล้วไม่ดี ก็อ ย่ าได้เสียเวลา หยุดการฟุ้งเฟ้ออยู่กับที่ โดยที่ไม่ได้กล้าไปไหน

3 ตอนอ า ยุ 40 ปี คุณเริ่มที่จะบรรลุแล้วว่า แท้จริงของชีวิต มีเพียงครอบครัว คนที่เรารัก และเพื่อนสนิทไม่กี่คนเท่านั้น ที่พร้อมที่จะอยู่เคียงข้างกันตลอดนอกจากนั้น คนอื่นก็เข้ามาหวังเพื่อกอบโกยและหวังผลประโยชน์ด้วยกันทั้งนั้นอ ย่ าได้ทนกับคนที่ปฏิบัติต่อคนไม่ดี อย่ าได้ทนกับพวกเขาด้วยเหตุผลที่ว่า มีผลประโยชน์ทางการเงิน การงาน อาชีพ อ ย่ าได้ทนกับพวกเขา เพราะความเห็นแก่ตัวเล็กๆน้อยๆ ที่ไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรเลย

4 ห ยุ ด พิ สูจน์ตัวเองในเส้นทางที่คนอื่น บ อ ก

1 เมื่อยังเล็ก เราจะเข้าใจมาตลอดว่า คนที่เรียนได้คะแนนสูง อันดับดีๆ สอบติดมหาวิทย าลัยดีๆ มีปริญญาหลายๆใบ คือคนเก่ง 2 พอโตขึ้นมาหน่อย เราจะเข้าใจว่าคนที่ทำงานเก่ง เงินเดือนสูงๆ หรือ มีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับนับหน้าถือตาของสังคม คือคนเก่ง

3 มาวันนี้ เราจะเข้าใจเองว่าที่ ผ่ า น มาเราคิดผิดมาตลอด คนที่เก่งจริงคือ คนที่ทำงาน หรือ อาชีพอะไรก็ได้อย่ างมีประสิทธิภาพ ถึงเวลากินก็ได้กิน ถึงเวลานอนก็ได้นอน มีเวลาว่างไปเที่ยวบ้างมีเวลาออกกำลังกาย มีเวลาให้ครอบครัว มีเวลาอยู่กับเพื่อนๆ และ ตัวเอง คนที่สมดุลในทุกๆ เรื่อง ในแบบฉบับของตัวเอง และ ใช้ชีวิตอย่ างมีความสุข นั้นแหละ คือ คนที่ประสบความสำเร็จอย่ างแท้จริง

5 ดี กับ ค น ที่เขาดีกับเราให้มาก

หลังจากที่เลือกคนที่ดีให้อยู่ในชีวิตแล้ว เราก็ควรที่จะรั ก ษ า เค้าไว้ให้ดีด้วย ไม่ใช่ว่าเห็นใครดีด้วยแล้วได้ใจไปเอาเปรียบเขา ใครดีก็ต้องดีตอบ เพื่อรั ก ษ าคนดีๆเหล่านั้นไว้ในชีวิตให้นานที่สุด

6 คุณทำทุก อ ย่ า ง ไม่ได้หรอก

โฟกัสแค่สิ่งที่คุณทำได้ แล้วทำมันให้ดีก็พอทุกอ ย่ า งในชีวิต คือการแลกเปลี่ยน คุณได้บางอย่ างเพื่อเสียบาง อ ย่ า งไป คุณไม่มีทางได้มันไปทั้งหมด มันเป็นเรื่องที่คุณต้องยอมรับเพราะ สิ่ งที่น่าเสียใจกว่านั้นก็คือ เราใช้เวลาต่อจากนี้อีก 10 ปี อยู่กับสิ่งที่เราไม่ได้ชอบ จากวันเป็นเดือน เป็นปีลืมตามาอีกทีก็อายุ 50 แล้ว ม า พ บ กับ ปัญหาวัยกลางคน เพราะมันคือปัญหาที่เราไม่ได้แก้ไขมันเมื่อ 10 ปีที่แล้ว

7 ไม่ต้องกลัวความเส ี่ยงมาก ก็ ได้

ช่วงอายุนี้มันยังเปลี่ยนแปลงได้อยู่ จริงๆ แล้วช่วงอายุ 30-40 เนี่ย เราควรจะมีอาชีพที่ ปักหลักแน่นอนแล้ว แต่มันก็ไม่ได้สายเกินไปที่จะเปลี่ยน

8 รักตัวเอง เคารพตัวเองให้มากๆ

ทำอะไรเพื่อ ตัวเองในทุกๆ วัน ทำอะไรที่แตกต่างไปบ้างสักเดือนละครั้ง ทำอะไรที่ยิ่งใหญ่บ้างปีละครั้งก็ดีลองถามตัวเองดูว่า อีก 5 ปี 10 ปี เรื่องที่เจอ ที่รู้สึกอยู่ตอนนี้ มันจะสำคัญเมื่อถึงเวลานั้นมั้ย ถ้าไม่ ใช้เวลามันแค่ไม่กี่นาที แล้วก็ปล่อยมันไปเถอะ

9 จ ง พัฒนาตัวเอง อ ย่ า ง ต่อเนื่อง

บางคนเลิกเรียนรู้ สิ่งต่างๆ เมื่ออายุได้ 20 บางคนพอเข้าอายุ 30 ก็ยุ่งเกินไปที่จะพัฒนาตัวเอง แต่ถ้าคุณคือส่วนน้อยที่พัฒนาตัวเองและเรียนรู้อ ย่ า งสม่ำเสมอ ทั้งด้าน ร่ า ง ก า ย และจิตใจ ช่วงอายุ 40 จะเป็นช่วงเวลาใหม่ที่คุณจะมีความสุขกับมันวอเรน บัฟเฟต เคยบอกไว้ว่า การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดที่ คือการเรียนศึกษาเรียนรู้ด้วยตัวเค้าเองเพราะเงินมาแล้วก็ไป ความสัมพันธ์บ้างมาแล้วก็ไป แต่ความรู้มันจะอยู่กับคุณตลอดไป

ขอขอบคุณที่มา bitcoretech verrysmilejung

Check Also

คุณว่าผู้หญิงคนไหนแก่ที่สุด จะบอกลักษณะคนทายได้

คุณว่าผู้หญิงคนไหนแก่ที่สุด จะบอกลักษณะคนทายได้ เลือกหม … …