Home ข้อคิด มีใครทำงานออฟฟิต แล้วไม่มีเพื่อนบ้าง

มีใครทำงานออฟฟิต แล้วไม่มีเพื่อนบ้าง

6 second read
0
0
135
มีใครทำงานออฟฟิต แล้วไม่มีเพื่อนบ้าง

มีใครทำงานออฟฟิต แล้วไม่มีเพื่อนบ้าง

คนเราจะมีประสิทธิภาพในการทำงานแค่ช่วง 4–6 ช ั่วโมงต่อวัน เพราะฉะนั้นประมาณ 2 ช ั่ว โมงที่เหลือ เรา ค ว ร จ ะ สลับทำอะไร อ ย่ า งอื่นบ้างมันจะมีอารมณ์ประมาณว่า วันนี้เราว่าเรามาทำงานเช้า แต่เจอคนมาเช้ากว่า หรือ กำลังจะกลับบ้าน แต่ยังมีคนนั่งทำงานอยู่ ยิ่งเป็นคนในทีมเดียวกัน หรือทำ project เดียวกัน จะมีใครมองว่าทำไมขยันไม่เท่ากันหรือเปล่า

การที่บริษัทมีโอที ก็เหมือนสนับสนุนให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในองค์กร ไม่ยอมผลักดันให้พนักงานเรียนรู้จากสิ่งที่ผิดพลาด อะไรที่ผิดก็ยังคงผิดซ้ำๆ ท้ายที่สุดก็จะกลายเป็นวัฒนธรรมที่นี่เค้าทำงานดึกกันจะรีบกลับบ้านไปไหนหรือไม่เสร็จเดี๋ยวค่อยต่อโอทีเอาในโลกใบนี้คนทำงานมีหลากหลายแบบ บางคนอุทิศให้กับงานเป็นหลัก ทำงาน 10 ช ั่วโมงต่อวัน เดินทาง 2 ช ั่วโมงต่อวัน

แต่ความสัมพันธ์ล้มเหลว ไม่มีเรื่องอื่นในชีวิตนอกจากเรื่องงาน คนบางคนใช้ชีวิตแบบสุดโต่งมาก บางคนเป็นพนักงานระดับตำนานของบริษัท ทำงานหนัก ดื่มหนักมากๆ และเคยละเลยชีวิตครอบครัวอยู่หลายสิบปีคำว่าสมดุลชีวิตและงาน ไม่ใช่การที่บริษัทให้อิสระในการแต่งตัว ไม่ใช่การอนุญาตให้ใส่กางเกงยีนไปทำงานได้ นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญในทารทำงานที่ยืดหยุ่น

แต่สมดุลที่แท้จริงคือ จะทำอ ย่ า งไรให้พนักงานแต่ละคนมีความสุขกับหน้าที่ที่ตัวเองได้รับ และ เรื่  อ งรองลงมาคือทำยังไงให้พนักงานทุกคนที่ทำงานร่วมกันอยู่ด้วยกันอ ย่ า ง มีความสุข นี่คือต้นตอของปัญหาที่แท้จริงในฐานะพนักงาน ต้องออกแบบชีวิตของตัวเอง ต้องยอมรับความจริงว่ารัฐบาลหรือแม้แต่บริษัทก็ไม่สามารถรับผิดชอบ

การใช้ชีวิตที่สมดุลของคุณได้ 100% คุณต้องเป็นคนกำหนดเอง ถ้าคุณไม่ออกแบบชีวิตของคุณเอง ใครซักคนหรือบริษัทก็จะออกแบบเอาไว้ให้คุณเดินตาม แต่อย่ าเพิ่งใจร้อนเราไม่ได้บอกให้คุณลาออก แค่คุณต้องมีขอบเขตในการทำงานมากขึ้นทบทวนชีวิตกันสักนิดก่อนดีไหม ว่าถ้าหากไม่ใช่เรื่องงานแล้ว ชีวิตของเรามีอะไรที่สำคัญอีกมั้ย บางคนไม่มีเลยนะลูกๆ

ย้ า ย ออกจากบ้านแล้ว ภรร ย าขอห ย่ า สุขภาพ ย่ำ แย่ เพื่อนก็ไม่มี ชีวิตคนเรามันต้องเดินทางสายกลาง ตื่นขึ้นมาอย่ างสดชื่น นอนหลับอ ย่ า งเต็มอิ่ม ได้พาหมาไปเดินเล่น ได้พาลูกไปโรงเรียน ไปดินเนอร์กับภรร ย า และ ได้กลับไปเยี่ยมพ่อกับแม่บ้าง สิ่งเหล่านี้ควรมีอยู่ในชีวิตเราด้วยเราต้องเข้าหาสมดุลด้วยวิธีการที่สมดุลการเป็นทาสออฟฟิศที่ทำงาน 10 ช ั่วโมงต่อวัน

ไม่ได้เพิ่มความสมดุล อ ย่ าลืมให้ความสำคัญด้านอารมณ์ และด้านจิตวิญญาณด้วย แล้วความสมดุลในชีวิตของคุณล่ะ เป็นยังไงบ้างถ้าคุณยังไม่มีลูกคุณสามารถใช้เวลากับพ่อแม่ให้มากขึ้น อาจเริ่มไปฟิตเนส หรือไปวิ่งตามสวนสาธารณะทุกวันหยุด หรืออ ย ากไปหาเพื่อนบ้างมั้ยการสร้างสมดุลในชีวิตบางทีก็ไม่ต้องเปลี่ยนแปลง อ ย่ า งมากในชีวิต

แค่ปรับอะไรเล็กน้อยในที่ซึ่งเหมาะสมแล้วทำให้ชีวิตดีขึ้นในทางใดทางหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ สุขภาพ หรือ ความสุข คุณน่าจะได้พบนิ ย า ม ความสำเร็จในชีวิตแบบใหม่ที่มีคุณค่าต่อชีวิตมากกว่าก็ได้ถึงกฎหมายแรงงานจะบอกว่านายจ้างต้องจ่ายค่าโอทีหากลูกจ้างทำงานล่วงเวลาแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า เราควรจะทำโอที ไม่ว่าจะเพื่อเงิน

หรือเพื่ออะไรก็แล้วแต่ ทำไมล่ะ ถ้างานๆนึงควรจะใช้เวลา 100 ช ั่วโมง แต่ถ้าเราแอบทำงานนอกเวลา ด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม กลายเป็นว่างานๆนี้จริงๆแล้วถึงแม้จะเสร็จทันเวลา แต่ก็ใช้เวลาเกิน ก็จะมีช ั่วโมงทำงานแอบแ ฝ ง hidden hours อยู่ใน reportบางคนบอกว่า เพราะบ้านอยู่ไกลเลยต้องออกมาพร้อมกับคนที่บ้านแต่เช้า

หรือหนีรถติดช่วงเลิกงานเลยกลับดึกดีกว่า ทำให้บางคนจำเป็นต้องมาเช้า หรือไม่ก็จำเป็นต้องอยู่ดึก ลองหาอะไรอ ย่ า งอื่นทำบ้าง ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมที่เกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับงานก็ได้ เข้า fitness ออกกำลังกาย กิจ ก ร ร มอื่นๆ มันต้องมีสักอย่ างแหละที่เติมเต็มวันของเราได้มากกว่าการ ก็ไม่รู้จะทำอะไร ก็เลยนั่งทำงานดีกว่า จริงไหมคะ

ขอขอบคุณที่มา parinyacheewit

Check Also

คุณว่าผู้หญิงคนไหนแก่ที่สุด จะบอกลักษณะคนทายได้

คุณว่าผู้หญิงคนไหนแก่ที่สุด จะบอกลักษณะคนทายได้ เลือกหม … …