Home ข้อคิด คุณทำงานไม่ตรงกับสายที่เรียนมา ข้อคิดคนทำงาน

คุณทำงานไม่ตรงกับสายที่เรียนมา ข้อคิดคนทำงาน

8 second read
0
0
86
คุณทำงานไม่ตรงกับสายที่เรียนมา ข้อคิดคนทำงาน

คุณทำงานไม่ตรงกับสายที่เรียนมา ข้อคิดคนทำงาน

ตอนที่ยังเป็นเ ด็ กนักเรียน หลายคนต่างเชื่อเสมอว่าถ้าได้ตั้งใจเรียน สอบติดคณะที่ใช่ยิ่งมีโอกาสได้งานที่ดี เงินเดือนที่ดี และยิ่งเป็นอาชีพที่ใครก็รู้จักเช่น ข้าราชการ วิศวกรนักธุรกิจยิ่งน่าภูมิใจไปใหญ่ เพราะนอกจากเงินเดือนที่ได้ สมน้ำสมเ นื้ อ มีจำนวนมากพอที่จะจุนเจือครอบครัวได้ มีสวัสดิการรองรับให้สุขสบายยังเป็นอาชีพที่ถือว่ามีหน้ามีตา ใครก็ต้อนรับกันหมดแต่ในโลกของความเป็นจริงแล้ว อาชีพที่มีหน้ามีตาในสังคม ไม่ได้เหมาะกับทุกคนเสมอไปและในแต่ละอาชีพ เขาก็มีการกำหนดอัตรารับสมัครแต่ละปีที่ค่อนข้างจำกัดน่ะสิ

แล้วจะเรียนไปทำไม ถ้าสุดท้ายก็ได้งานที่ไม่ตรงสาย-งานที่น้อยคนจะรู้จัก-เงินเดือนที่ไม่ได้มากมายอะไรคำถามนี้จะได้คำตอบที่ เ ค รี ย ดมากเลยเพราะมันเต็มไปด้วยความคาดหวังที่คิดว่าเรามีทางเลือกอยู่ไม่กี่อ ย่ า งในชีวิตแต่ถ้าลองเปลี่ยนเป็นความคิดฉันทำงานอะไรก็ได้ไม่ว่าจะตรงสายหรือไม่ก็ตาม มันอาจดูประโยคข ี้แพ้ในสายตาบางคนแต่ถ้าคิด ๆ ดูแล้ว มันได้ความสบายใจ เยอะกว่าการตั้งคำถามแบบแรกเพราะความเป็นจริงของชีวิตคือ

1 มนุษย์ทุกคนมีความสามารถในตัวเองแตกต่างกันไปเราไม่จำเป็นต้องเก่งเหมือนกันหมด

2 แม้แต่ในคนเดียวกัน ยังมีความสามารถที่หลากหลาย เช่นเป็น ห ม อ แต่ก็เล่นดนตรีเก่ง ทำ อ า ห า ร เก่ง เป็นศิลปินแต่ก็คำนวณเก่ง ขับรถเก่ง

3 สิ่งที่เราเก่งไม่จำเป็นต้องออกมาในรูปแบบวิชาชีพเช่นห ม อ -วิศวกร- พ ย า บ า ล มันอาจเป็นพรสวรรค์ก็ได้ เป็นความรู้อะไรก็ได้ที่เราเอาจริงกับมัน เช่นการทำอาหารการจัดสวน-การออกแบบ-ไม่อย่ างงั้น เราคงไม่เห็นนักธุรกิจหน้าใหม่หลายคนผุด ขึ้ น เป็น ด อ กเห็ดหรอก

4 สิ่งที่เราเรียนมาเป็นสิบเป็นร้อยกว่าวิชา มันคือการหล่อหลอมหลายวิชาไม่ได้สอนเราทางตรง แต่ให้เราค่อย ๆ ซึมซับข้อดีแต่อ ย่ างไปเอง เช่น ฝึกความอดทน, ฝึกความประณีต,ฝึกทักษะการเข้าสังคมในครั้งหนึ่งที่เราไม่เห็นประโยชน์ว่าจะใช้อะไรได้จริง พอโตขึ้นอีกหน่อยมันก็ต้องมีบ้างแหละที่เรานึกอะไรขึ้นมาจนต้องไปหาอ่าน ปัดฝุ่นตำราอีกครั้งทุกความรู้ที่เราได้รับ ไม่เคยสูญเปล่า แค่เรามองไม่เห็นค่ามันเอง ลองนึกดูให้ดีสิ

5 ในรั้วโรงเรียน- มหาวิทย า ลั ยต่อให้เราได้เรียนกับอาจารย์ที่เก่งแค่ไหนขอบเขตความรู้มันก็เป็นเพียงความรู้ในรั้วเท่านั้นโลกของวัยผู้ใหญ่ที่โตขึ้น เรายังต้องรู้เห็นอีกมากเรียนรู้กันอีก ย า ว ลองผิดลองถูกกันอีกเยอะดังนั้น จะมา ฟั น ธ ง ว่าเรียนมาสายวิทย์ต้องทำงานสายวิทย์ เรียนสายภาษาต้องทำงานสายภาษา มันก็ไม่ถูกเสมอไป

6 มันเป็นเรื่องธรรมดาที่มนุษย์เราจะต้องวิ่งตามหาสิ่งที่ ใช่ค่อย ๆ เรียนรู้ ค่อย ๆ ปรับตัวไป สิ่งที่เรากำลังสนุกในตอนนี้ บางทีอาจจะยังไม่ใช่ที่สุดสิ่งที่เราเก่งในตอนนี้ ในวันข้างหน้า มันอาจเป็นเพียงแค่ความทรงจำเพราะอาจมีหลายปัจจัยให้คิดมากขึ้น เช่น จำเป็นต้องพับโครงการเรียนต่อเอาไว้เพราะเงินไม่พอจำเป็นต้องทำงานหาเงินก่อน แล้วค่อยไปเรียนศิลปะที่เราชอบเราต้องดูจังหวะของชีวิตด้วยความจำเป็นของชีวิตแต่ละช่วง

7 มนุษย์เราควรมีทางเลือกให้กับชีวิตไว้หลายด้าน หรือมีแผนสำรองเพื่อไม่เป็นการปิ ด กั้ นตัวเองจนเกินไป เช่น ถ้าวุฒิที่เราเรียนมามันหางาน ย า ก จะยอมรึเปล่าที่เอาวุฒิต่ำกว่านี้หางานไปก่อนถ้าเราไม่ได้อาชีพนี้ เรายอมได้รึเปล่าที่จะทำอาชีพอื่นไปพลางๆ ก่อนความฝันสิ่งที่ใช่ มันไม่ควรเ ป็ นสิ่งที่ได้ดั่งใจในทันทีมันเป็นเรื่องธรรมดามาก ๆ ที่ต้องแลกกับความเหนื่อยความ พ ย า ย า ม หลายเท่าตัว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่ อ ย่ างใดหากจะพบว่าทำไม ห ม อบางคนถึงแต่งเพลงได้

ทำไมบางคนเรียนวิชาชีพแต่มาเป็นศิลปิน-ทำไมบางคนเรียนไม่จบแต่ประสบความสำเร็จถ้ายังไม่เข้าในในข้อนี้ ลองย้อนกลับไป อ่ า น ข้อ 6 อีกรอบขึ้นชื่อว่าความรู้ เราได้รับมาถึงจะไม่ใช้ในทันทีก็ไม่ควรเสียดาย ขึ้นชื่อว่า ความฝัน ถึงจะยังไม่ใช่ในวันนี้ใช่ว่าวันหน้าจะเป็นไปไม่ได้ มันอยู่ที่ตัวเราล้วน ๆ ว่ารู้ตัวดีหรือไม่ว่าทำอะไรอยู่ และ พร้อมจะยืดหยุ่นกับทุกสถานการณ์ชีวิตรึเปล่าอย่ าลืมว่าโลกเรากลม และมีหลายมิติ ใช่ว่าจะต้องมองเพียงด้านเดียว

ขอขอบคุณที่มา ทำใจ chanisara

Check Also

คุณว่าผู้หญิงคนไหนแก่ที่สุด จะบอกลักษณะคนทายได้

คุณว่าผู้หญิงคนไหนแก่ที่สุด จะบอกลักษณะคนทายได้ เลือกหม … …