Home ข้อคิด 8 วิธีที่จะทำให้ลูก เชื่อฟังมากขึ้นไม่ต่อต้าน

8 วิธีที่จะทำให้ลูก เชื่อฟังมากขึ้นไม่ต่อต้าน

6 second read
0
0
67
8 วิธีที่จะทำให้ลูก เชื่อฟังมากขึ้นไม่ต่อต้าน

8 วิธีที่จะทำให้ลูก เชื่อฟังมากขึ้นไม่ต่อต้าน

ยิ่งลูกโตขึ้น การหวังลูกให้เป็น เ ด็ กเชื่อฟัง ว่านอนสอนง่ายยิ่งกลายเป็นเรื่อง ย า ก เพราะลูกเริ่มมีความคิด และความต้องการเป็นของตัวเอง บางครั้งลูกสนใจ สิ่งที่อยู่ตรงหน้ามากกว่าหรือบางครั้ง ลูกก็ไม่ อ ย า ก คุย ไม่ อ ย า ก ทำในสิ่งที่พ่อแม่ต้องการจึงใช้วิธีทำหูทวนลม และ เพิกเฉยต่อคำพูดของคุณพ่อคุณแม่ และ นั่นอาจจะทำให้คุณสติแตกได้

1 ส อ น ให้ลูกใช้ความคิดแก้ปัญหาด้วยตัวเอง

ประโยคคำสั่ง อ ย่ า ไม่ ห้าม ทำให้ลูกรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เรื่องทำอะไรก็ไม่ดี โดนห้ามตลอดส่งผลต่อให้ลูกขาดความเชื่อมั่นในตัวเองกลายเป็นคนไม่มั่นใจ กลัวผิดและไม่กล้าที่จะคิดริเริ่มอะไรใหม่ๆ สิ่งที่ควรทำฝึกให้ลูกใช้ความคิดและแก้ปัญหาด้วยตัวเองยกตัวอ ย่ า ง เช่นไปเก็บของเล่นสิลูก

เป็นไหนลูกลองคิดสิว่า จะเอาตุ๊กตาตัวนี้ ไปเก็บไว้ไหนรถของเล่นนี้ล่ะ เอาไปไว้ไหนดีนอกจากนี้ควรหากิจกรร มสนุกๆทำร่วมกันกับลูกเมื่อคุณพ่อคุณแม่เห็นลูก ทำไม่ถูกต้องจะได้สอนลูกให้คิดแก้ปัญหา และ  สอดแทรกเรื่องของคุณธรรมจริยธรรมเข้าไปได้ด้วย

2 ฟังสิ่งที่ลูกต้องการจะ บ อ ก

บางครั้งสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่คิด ก็ไม่ได้ถูกต้องเสมอไปเพราะ เ ด็ ก แต่ละคนมีความคิดเป็นของตัวเองสิ่งที่ควรทำถามให้รู้ว่าลูกคิดอะไร ทำไปเพราะอะไรมีอะไรอยู่ในใจ และ ตั้งใจฟังสิ่งที่ ลู ก พูด เพื่อช่วยให้ลูกผ่อนคลายความกัง ว ล และ ค่อยๆเปลี่ยนความคิดของลูกให้ถูกต้อง

3 ไม่ใช้อารมณ์หรือเพิกเฉยความต้องการของ ลู ก

เ ด็ ก วัย 2-3 ขวบ ยังไม่สามารถฟัง และทำตามคำสั่งหลาย อ ย่ า ง ในเวลาเดียวกันได้ จนทำให้พ่อแม่ใช้อารมณ์กับลูกหรือไม่สนใจลูกเลยสิ่งที่ควรทำ คอยจับสังเกตว่า ลูกต้องการสื่อ ส า ร อะไรอาจใช้วิธีถามซ้ำๆ เพื่อยืนยันในสิ่งที่ลูกทำรวมถึงเมื่อต้องการให้ลูกทำอะไร พ่อแม่ควรพูดกับลูกให้ชัดเจนสั้นและกระชับใจความ

4 สอนด้วยคำพูดน้ำเสียง และ สายตาแห่งความ รั ก

เมื่อไรก็ตาม ที่ลูกทำผิดหรือไม่ทำตามสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่บอกคุณอาจจะอดไม่ได้ ที่จะตะคอกลูก ด้วยคำพูดแรงๆ และไม่สนใจฟังในสิ่งที่ลูกอย ากอธิบาย การขึ้นเสียงหรือตะคอกอาจทำให้ลูกสงบลงได้ก็จริง แต่ในอนาคตลูกก็จะทำผิดซ้ำอีกอยู่ดีสิ่งที่ควรทำเริ่มจากดึงความสนใจของลูก ด้วยการเรียกชื่อลูก’ใช้คำพูดง่ายๆ เพื่อให้ลูกทบทวน ในสิ่งที่ทำผิด

และใช้น้ำเสียงที่หนักแน่น แต่ไม่ดุดัน เช่น ถ้าลูกกำลังกินขนมอยู่และมีเศษขนมตกพื้น แทนที่พ่อแม่จะดุที่ลูกทำขนมหก หล่นลงพื้น ลองเปลี่ยนเป็นบอกทางป้องกัน และแก้ปัญหาเช่นขนมที่หกลงพื้นแล้ว ลูกต้องเก็บไปทิ้งลงในถังขยะให้เรียบร้อยนะครับ และคุณแม่คิดว่าลูกควรเอาจานมารองเพื่อขนมจะได้ไม่หกลงพื้นต่อไปนอกจากคำพูดกับน้ำเสียงแล้ว ภาษากายก็มีส่วนสำคัญในการช่วยให้ลูกรับฟังมากขึ้น คุณพ่อคุณแม่ควรย่อตัวให้สูงเท่าลูกมองลูกด้วยสายตาแห่งรัก และตั้งใจฟังสิ่งที่ลูกพูด

5 สอนด้วยการเป็นแบบ อ ย่ า ง ให้ ลู ก เห็น

เ ด็ ก วัย 3-6 ขวบมักจะลอกเลียนแบบ พฤติกรร มของคนใกล้ชิดโดยไม่สามารถ แยกแยะได้ ควรหรือไม่ควรเลียนแบบพฤติกร รมอะไร ทำให้หลายครั้ง ลูกเผลอลอกเลียนพฤติก รรมไม่ดีของผู้ใหญ่หรือคุณพ่อคุณแม่ เมื่อถูกตำหนิ และต่อว่าลูก จึงไม่เข้าใจว่าาทำไมคุณพ่อคุณแม่ยังทำได้เลย’ การทำให้ลูก เกิดความสงสัย

โดยไม่ได้รับการอธิบาย บ่อยครั้งเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้ลูกเริ่มไม่อย ากที่จะเชื่อฟังพ่อแม่อีกต่อไป สิ่งที่ควรทำ : ลูกเรียนรู้จากการกระทำได้ดีกว่าคำพูด ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ ต้องเป็นตัวอ ย่ า งให้ลูกเห็นมากกว่าการออกคำสั่ง ว่าลูกควรทำอะไร หรือห้ามว่าไม่ควรทำอะไร

6 สอนด้วยการมีข้อตกลงร่วมกัน

เ ด็ กทุกคนมีสิ่งที่ชอบ และไม่ชอบของตัวเองบ่อยครั้งที่คุณพ่อคุณแม่ ให้ลูกทำสิ่งที่ไม่ชอบนานจนลูกต่อต้านสิ่งที่ควรทำ เ ด็ ก วัย 2-3 ขวบเป็นวัยแห่งการต่อต้านการให้ข้อเสนอ เพื่อเป็นข้อตกลงร่วมกัน ลดการโต้เถียง

หรือการชวนทะเลาะลงได้ เช่นถ้าลูกช่วยแม่เก็บเสื้อผ้าแม่จะเล่านิทานให้ฟัง หรือ ให้ทางเลือกอื่น ที่ไม่ใช่การลงโทษเช่นถ้าไม่ทำแม่จะตีเป็นถ้าช่วยแม่พ่อกลับมาเราจะได้กินข้าวกันเร็วขึ้น

7 สอนด้วยการใช้เทคนิคที่เข้าใจง่าย

เ ด็ กอาจจะยังฟังประโยคย าวๆ หรือหลายคำสั่งพร้อมกันไม่เข้าใจสิ่งที่ควรทำ ใช้เทคนิคสอนให้ลูกจำง่ายขึ้น ยกตัวอ ย่ า งเช่นมีมือเอาไว้ช่วยเหลือ ไม่ใช่เพื่อเอาไว้ตี หรือพูดให้ตื่นเต้นเร้าใจเช่นวันนี้ทำอะไร ที่โรงเรียนบ้าง เปลี่ยนเป็นเล่าให้ฟังหน่อย

วันนี้ทำอะไรสนุกสุดและหลีกเลี่ยงคำว่าไม่หรือห้าม’เพราะทำให้ลูกไม่อย ากทำตาม เช่นห้ามดื้อเปลี่ยนเป็นแม่ชอบลูกตอนที่เชื่อฟังแม่ที่สุดเลย นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่อาจเปลี่ยนมาใช้การให้คะแนนหรือสติ๊กเกอร์เพื่อให้ลูกมีเป้าหมายในการเชื่อฟังคุณมากขึ้น

8 หาสาเหตุของการไม่ เ ชื่ อ ฟั ง

ถ้าลูกเป็น เ ด็ ก เชื่อฟัง คุณพ่อคุณแม่มาตลอด แต่บางครั้ง ที่ไม่เชื่อฟังอาจเป็นเพราะกำลังโกรธ เศร้าเสียใจ หรือต้องการให้พ่อแม่ เอาใจมากขึ้นเช่น มีน้องเข้ามาเป็นสมาชิก ใหม่ในบ้านถูกกลั่นแกล้ง หรือล้อเลียน

ตอนอยู่ที่โรงเรียนสิ่งที่ควรทำพูดคุยและหาคำตอบ สาเหตุที่ลูกไม่เชื่อฟังและบอกรักลูก ให้ลูกเชื่อมั่นว่า มีพ่อแม่อยู่ข้างๆเสมอนอกจากนี้ควรสังเกตทัศนคติวิธีคิดและการพูดของลูกเพื่อที่จะเข้าใจลูกมากขึ้น

ขอขอบคุณที่มา boutmom stand-smiling

Check Also

คุณว่าผู้หญิงคนไหนแก่ที่สุด จะบอกลักษณะคนทายได้

คุณว่าผู้หญิงคนไหนแก่ที่สุด จะบอกลักษณะคนทายได้ เลือกหม … …