3 ความลับที่ธนาคารไม่เคยบอก เวลาไปฝากเงิน
วันนี้เราอย ากที่จะพาเพื่อนไป เรียนรู้ข้อคิดการฝากเงิน กับบทความ 3 เรื่องฝากเงินที่ธนาคารไม่เคยบอกคุณ ไปดูกันว่าจะต้องเรียนรู้อะไรบ้าง เพื่อให้เราเข้าใจเรื่องการฝากเงิน มากขึ้นหากเราเก็บเงินได้สักก้อน สิ่งที่เราจะคิดถึงเมื่อ อ ย า ก จะเก็บเงินเอาไว้
ก็คงเป็นการฝากธนาคาร เพื่อจะได้สร้างฐานเครดิตต่อยอ ดทำธุรกิจอื่นๆได้ และการฝากเงินไว้กับธนาคารก็ยังให้รู้สึกปลอ ดภั ย ด้วยความน่าเชื่อถือที่มีมาตั้งแต่สมัยคุณปู่คุณ ย่ า
แต่มองอีกนัยหนึ่งธนาคารไม่ได้ ป ล อ ด ภั ย อ ย่ า งที่คิด หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน การที่เราเอาเงินไปฝากธนาคารเอาไว้ อาจทำให้เราสูญเสียเงินเก็บเราไปทั้งหมดได้
1 เสี่ยงแบงค์ ล้ ม
ทำไมรุ่นคุณปู่คุณ ย่ า ถึงบอ กว่าเอาเงินไปฝากในธนาคารแล้ว ป ล อ ด ภั ย นั่นเป็นเพราะเมื่อก่อนนั้น พระราชกฤษฎีกาคุ้มครองเงินฝาก ถ้าแบงค์ล้มเราจะได้เงินคืนทั้งหมด แต่ในปัจจุบัน มันไม่ได้เป็น อ ย่ า ง นั้นแล้ว
เพราะพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนไป ไม่ได้คุ้มครองเงินเราเต็มจำนวนเหมือนที่ ผ่ า น มา กล า ยเป็นว่าวงเงินคุ้มครองจะค่อยๆลดลงจากเงินต้นทั้งหมด ซึ่งก็แปลว่าเงินของเราไม่ได้ปลอ ดภั ย 100% ดังนั้นสำหรับคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่จะบริหารเงินกันเป็นส่วนๆ
ไม่ได้เอาไปฝากในธนาคารเสียทั้งหมด อาจจะเอาไปลงทุนเพื่อให้มีกำไรงอ กงามแทนการรอ ด อ ก เบี้ยจากธนาคาร ถ้าผลการตอบรับการลงทุนดี เราจะได้กำไรมากกว่า ด อ ก เบี้ยจากธนาคารเสียด้วยซ้ำ
2 ยิ่งฝากยิ่ง ห า ย
แม้ว่าการฝากเงินจะสามารถรั ก ษ า เงินต้นไว้ได้เท่าเดิมโดยไม่สูญห า ยไปไหน แต่อ ย่ า ลืมว่าเมื่อเวลา ผ่ า นไปทุกๆปี ค่าของเงินก็จะลดต่ำลงไปด้วย เขาเรียกกันว่า เงินเฟ้อ ซึ่งของ ไ ท ย จะอยู่ที่ 3% ต่อ ด อ ก เบี้ยเงินฝากทั่วไป
แม้ปัจจุบันจะน้อยกว่า 3% ไปบ้างแล้ว แต่พอเอามาคิดค่าเงินต้นที่นำฝากไว้ในตอนแรก ยังไงค่าของเงินปัจจุบันก็ยังน้อยกว่าอยู่ดียกเหตุการณ์ให้เห็นภาพง่ายๆ
มูลค่าเงินต้นที่เรานำเอาไปฝากธนาคารจะมีจำนวนเท่าเดิม แต่หากนำมาซื้อของปรากฎว่าราคาของแพงขึ้นกว่าแต่ก่อน นั่นแหละคือ เงินเฟ้อมากขึ้น จำนวนเงินเท่าเดิม แต่ต้องเอามาจับจ่ายในร า ค า ที่สูงขึ้นนั่นเอง
3 ไม่เป็นไปตามที่ ฝั น
เราเคยคิดไหม ว่าเราเริ่มเก็บเงินกันเพราะอะไร บางคน อ ย า ก มีบ้าน บางคน อ ย า ก มีรถ บางคน อ ย า ก เอาไปเที่ยว หรือบางคนเอาไว้ใช้ในบั้นปลายชีวิต แต่ด้วยเงินเฟ้อตามที่ได้อธิบายมาก่อนนั้น ก็จะทำให้ความฝันของเราริบหรี่ลงเรื่อยๆ
เพราะไม่ว่าจะทำอะไรเราก็ต้องจ่ายแพงขึ้นตามค่าเงินที่ปรับเปลี่ยนไปหากนำเงินไปลงทุน เพื่อรับผลกำไรต ามมูลค่าเงิน ณ เวลานั้นๆจะดีกว่า อ ย่ า งน้อยๆก็เป็นการเพิ่มเงินทุนที่มีอยู่ ให้ได้กำไรตามมูลค่าเงินในปัจจุบัน
จริงๆแล้วปัจจุบัน มีการใช้เงินเพื่อเพิ่มผลกำไรได้มากมายหลาย อ ย่ า ง เช่น เอาไปทำประกันชีวิต แบบสะสมทรัพย์ แบบที่ได้รับเงินปันผล และยังมีบางแบบที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้อีก
หรือจะเริ่มลงทุนทำธุรกิจเล็กๆ เพื่อให้ได้ผลกำไรที่มากขึ้นในภายหน้า สิ่งที่ อ ย า ก จะบอกก็คือ อ ย่ า เอาเงินทั้งหมดไปสะสมไว้ในธนาคาร เราควรกระจายเพื่อที่จะใช้ลงทุน เพื่อลดความเสี่ยงจากสถาบันใดสถาบันหนึ่ง
และหากมีเงินสักก้อน ก็ควรนำมาลงทุนให้เงินทำงานแทนเรา ต่อไปเราก็แค่เพียงบริหารเงินเหล่านั้นให้ดีก็จะดีมากกว่าเอาไปฝากในธนาคารเพียง อ ย่ า ง เดียว
ขอขอบคุณที่มา Parinyajai krustory deesoulmuch