Home ข้อคิด (เรื่องสอนใจ) หลวงตาปลูกกล้วยไม้ไว้ชม ไม่ได้ปลูกไว้ให้คนมาโกรธ

(เรื่องสอนใจ) หลวงตาปลูกกล้วยไม้ไว้ชม ไม่ได้ปลูกไว้ให้คนมาโกรธ

3 second read
0
0
80
(เรื่องสอนใจ) หลวงตาปลูกกล้วยไม้ไว้ชม ไม่ได้ปลูกไว้ให้คนมาโกรธ

(เรื่องสอนใจ) หลวงตาปลูกกล้วยไม้ไว้ชม ไม่ได้ปลูกไว้ให้คนมาโกรธ

เ รื่ อ งเล่าจาก วัดแห่งหนึ่ง หลวงตาชอบปลูกต้นไม้ ด อ ก ไม้มาก

และท่านก็มีต้นกล้วยไม้ ปลูกไว้หลายกระถาง ท่านคอยรดน้ำ ดูแลเอาใจใส่

เป็น อ ย่ า ง ดี และคอยเฝ้ามองกล้วยไม้ออก ด อ ก งอกงามอยู่ทุกวัน

วันหนึ่งหลวงตามีกิจนิมนต์ ที่ต้องเดินทางไปต่างจังหวัด ใช้เวลาหลายวันกว่า

จะกลับ จึงฝากให้สามเณร ที่อยู่ในวัดช่วยดูแลต้นกล้วยไม้ เหล่านี้แทนหลวงตา

ซึ่งสามเณรก็ได้ดูแล รดน้ำต้นไม้ให้เป็น อ ย่ า ง ดี ทำแบ บนี้อยู่ทุกวันไม่เคยข า ด

สองวันต่อมา สามเณรต้องไปท ำ ธุ ร ะ ข้างนอกวัด และก่อนจะออกไป

ก็ได้นำต้นกล้วยไม้ ไปแขวนไว้ริมหน้าต่าง เพื่อให้ได้รับแสงแดด เมื่อสามเณร

ออกจากวัดไป จู่เมฆฝนก็เคลื่อนตัวมาปกคลุม บริเวณวัดจนครื้มไปหมด

ลมพัดแรงมาก จนทำให้กระถาง กล้วยไม้หล่น แ ต ก จนหมด เมื่อสามเณรกลับมา

ถึงวัด ก็ได้เห็นสภาพ กระถางกล้วยไม้ที่ตกกระจาย ระเนระนาดตามพื้น ก็ตกใจมาก

พลางคิดไปว่า หลวงตามาเห็นจะต้องถูกตำหนิแน่ เพราะหลวงตา รักกล้วยไม้เหล่านี้มาก

วันรุ่งขึ้น หลวงตากลับมาถึงวัด สามเณรก็รีบเดินเข้ามาหา หลวงตาด้วยความร้อนใจ

พร้อมกับเล่าความจริงให้ฟัง และเตรียมใจที่จะถูกว่าไว้แล้ว แต่เมื่อหลวงตาฟังจนจบ

ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร พร้อมกับบอกให้สามเณร ไปเก็บกวาดกระถาง ที่หล่นให้เรียบร้อย

สามเณรจึงยิ่งรู้สึก กังวลใจมากกว่าเดิม ที่ไม่ถูกหลวงตาตำหนิใดเลย พลางคิดว่า

หลวพ่อคงจะ โ ก ร ธ มาก จนไม่อย า กจะพูดอะไร สามเณรจึงถามหลวงตาว่า

ทำไมหลวงตาถึง ไม่ว่าอะไรสักคำเลย เพราะต้นกล้วยไม้เหล่านั้น หลวงตาเฝ้าดูแลมานาน

หลวงจึงหันไป ยิ้มให้สามเณร พร้อมกับตอบกลับมาว่า เพราะหลวงตาปลูก

กล้วยไม้ไว้ชม ไม่ได้ปลูกไว้เพื่อทำให้โ ก ร ธ ใคร เมื่อฟังเ รื่ อ งนี้ แล้วกลับมา

มองดูสังคมปัจจุบัน ก็ทำให้คิดได้ว่า คนเราสมัยนี้ช่างใจร้อนนัก เ รื่ อ งเล็กน้อย

ที่จะ อ ภั ย ให้กันได้แล้วก็จบกันไป กลับทำให้เป็นเ รื่ อ งราวใหญ่โต และสร้าง ปั ญ ห า

เพิ่มมากขึ้นไปอีก เวลามีอะไร นิดหน่อยไม่ถูกใจ ไม่พอใจ ก็ โ ว ย ว า ย ใส่กันซะแล้ว

ไม่ยอมฟังเหตุผลใคร จะมองแต่มุมตัวเอง อ ย่ า ง เดียว ว่าตัวเองนั้นถูกที่สุด

มันยิ่งทำให้ คนในสังคมเมื่อเกิด ปั ญ ห า ก็กระทบกระทั่งกันได้ง่าย คนเราเกิดมา

ต้องเคยทำผิด พลาดกันบ้าง ไม่มีใครจะทำถูกต้องไปหมดซะทุก อ ย่ า ง หรอก

เ รื่ อ งเล็กน้อยที่สามารถ ให้ อ ภั ย กันได้ ก็ควรจะทำ ตั ดไฟตั้งแต่ต้นลม อ ย่ า ปล่อยให้

ปั ญ ห า เล็ก กลายเป็นกองไฟ กองใหญ่ที่จะยิ่งทำให้ ดั บ ย า ก ตัวเรารู้อยู่เสมอ

ว่าเราเจอกับอะไรมา เราเข้าใจตัวเอง กับสิ่งที่ต้องเจอ และสิ่งที่ทำให้รู้สึเเย่

แต่เราไม่มีทางรู้เลยว่า คนอื่นเขาเจออะไรมา เขาถึงต้องเป็นแบบนั้น ทำ อ ย่ า ง นั้น

โลกไม่ได้หมุน รอบตัวเราคนเดียว ดังนั้นจงมองให้เห็นถึง ความรู้สึกของคนอื่นด้วย

ตอนคุณเป็นลูกค้า ไปซื้อของที่ร้านค้า คุณรู้สึกว่าร้านนี้ขายแพง อย า กได้กำไรเกินไป

ตอนคุณเป็น เจ้าของร้าน ขายของให้ลูกค้า คุุณรู้สึกว่าลูกค้าเ รื่ อ งมาก ของราคานี้

จะต่ออะไรมากมาย ตอนคุณเป็นลูกจ้าง คุณรู้สึกว่าเจ้านายเ รื่ อ งมาก ข ี้บ่น

เจ้ากี้เจ้าการ แถมยังข ี้เหนียวให้โบนัสน้อยอีก ตอนคุณเป็นเจ้านาย คุณรู้สึกว่า

ลูกน้อง ข ี้ เ กี ย จ ชอบอู้งาน ทำงานไม่คุ้มค่าจ้างที่จ่ายไป ตอนคุณขี่มอเตอร์ไซค์

คุณไม่ชอบ คนขับรถยนต์ แต่พอคุณขับรถยนต์ คุณกลับไม่ชอบ คนขับมอเตอร์ไซค์

มันไม่มีใครผิด หรือถูก แต่เราต่างยืนกันคนละจุด มองกันคนละด้าน เมื่อใดที่คุณเริ่มมอง

คนอื่นว่าไม่ดี ว่าถูกคนอื่นเอาเปรียบ ลองเปลี่ยนจุดที่ยืนดูสิ หากเขาในตอนนี้

คือคุณ คุณจะทำอ ย่ า ง นี้หรือไม่ เราทุกคนต่างมีความ โ ล ภ โ ก ร ธ ห ล ง

เป็นธรรมดา เมื่อคนอื่นทำให้เรารู้สึก โ ก ร ธ ควรให้ อ ภั ย เราทุกคนต่างมี

ความเห็นต่าง เมื่อเห็นคนอื่นคิดต่าง ควรยอมรับซึ่งกัน และกัน และ ปั ญ ห า จะลดลง

ขอขอบคุณที่มา นุสนธิ์บุคส์, parinyacheewit

Check Also

ท่านอนของคุณ บ่งบอกนิสัยของคุณได้

ท่านอนของคุณ บ่งบอกนิสัยของคุณได้ 1 ท่านอนหงาย   ถ … …