Home ข้อคิด คน 5 ประเภทที่จะตกงาน ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

คน 5 ประเภทที่จะตกงาน ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

15 second read
0
0
248
คน 5 ประเภทที่จะตกงาน ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

คน 5 ประเภทที่จะตกงาน ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

อาจารย์ Li Kaifu เคยกล่าวเอาไว้ว่า ภายใน 2-5 ปีข้างหน้า บริษัทจะเริ่มทยอย ปลดพนักงานออก เพื่อลดค่าใช้จ่าย และในอีก 10 ปีข้างหน้า งานกว่า 50 % ของมนุษย์ จะถูกแทนที่ด้วยการใช้หุ่นยนต์ เพราะ ฉะนั้น อย่ าคิดว่าเรื่องเหล่านี้ เป็นเรื่องไกลตัวเพราะในหลาย ๆ ประเทศที่พัฒนาแล้ว เขาเริ่มทยอยปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ ซึ่งคน 5 ประเภทนี้มีโอกาสที่จะเจอกับ เหตุการณ์เหล่านี้

1  คนที่ทำงานแบบเดิมๆซ้ำๆ

พนักงานที่ต้องทำงานแบบเดิมๆ ซ้ำๆ เช่นแพคของ ประกอบชิ้นส่วน จัดเรียงสินค้ าในคลังงานที่อาศัยแค่ การจับวางให้เข้าที่ไม่ได้ใช้การคิดวิเคราห์ หรือ การตัดสินใจใดๆ เรียกว่าทำงานด้านเดียวคล้ายๆ หุ่นยนต์ จึงไม่แปลกเลย หากจะถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์จริงๆ เพราะว่า หุ่นยนต์ไม่เรียกร้องขึ้นเงินเดือน ไม่ข าด ลา มาสาย ไม่บ่น ไม่หยุดงานปร ะ ท้ ว ง ไม่เรียกร้องสวัสดิการ

2  คนที่ทำงานร่วมกับคนอื่นไม่เป็น

บริษัทต่างชาติแห่งหนึ่งให้เงินผู้สมัครงาน 75 บาทให้พวกเขาไปหาข้าวกินด้วยกัน เมื่อผู้สมัครทั้ง 6 คนไปถึงร้านอาหาร ปรากฎว่าข้าวจานหนึ่ง ราคาอย่ างต่ำ 15 บาท เงินที่พวกเขามี ไม่พอที่จะนำซื้อข้าวคนละจานพวกเขาก็เลยกลับไปที่บริษัท พอถึงบริษัท ประธานบริษัทรู้เข้าก็ส่ายหน้า แล้วพูดกับพวกเขาว่าขอโทษด้วย พวกคุณไม่เหมาะกับบริษัทเรา”

คุณรู้ไหม  ร้านอาหารร้านนั้น มีโป รโมชั่นซื้อ 5 แถม 1 ไม่ได้อ่ าน ดูรายละเอียดในเมนูเลยหรอนี่แสดงให้เห็นถึงความไม่ใส่ใจ หรือถึงแม้ไม่มี โปร 5 แถม 1 ก็ยังขอจานเปล่ามาหนึ่งใบแล้วสั่งข้าว 5 จานมาแบ่งกันกินก็ได้ แต่ผู้สมัครทั้ง 6 คนไม่มีใครคิดว่ามาด้วยกัน จึงไม่เกิดคำว่าเป็นทีมเดียวกัน ทุกคนต่างคิดถึงแต่ตัวเอง เมื่อเข้ามาอยู่ในองค์กรก็ไม่รู้จักการทำงานเป็นทีม

3 คนที่ไม่เรียนรู้ นอกเหนือจาก 8 ชั่ ว โมง

มีเพื่อนเราคนหนึ่งทำงานที่โกดังสินค้า คอยเช็คจำนวนสินค้าในคลังงานนี้เป็นงานง่ายๆ ที่เหมือนจะถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ในอนาคต แต่เมื่อทำงานปีแรกเขาก็ค้นพบว่ามีของ บางอย่ างที่ถูกจัดส่งเป็นจำนวนมาก เขาเริ่มเกิดไอเดียจึงไปค้นหาข้อมูลต่อและพบว่า ของบางอย่ างในโกดังนั้นเป็นที่ต้องการของตลาดมากด้วยความที่อยู่ในวงการนี้อยู่แล้ว ทำให้เขามองหาแหล่งผลิตที่ต้นทุนถูกได้ และเริ่มนำมาลงหน้าเว็ปเพื่อขายออนไลน์ เมื่อเวลาผ่ า น ไป 3 ปี ธุรกิจของเขาข ย ายตัวอย่ างรวดเร็ว

เข้าปีที่ 7 เขาก็ได้เปิดบริษัท เป็นของตัวเอง ตลอดระยะเวลาในการทำงานสิ่งที่เขาไม่เคยหยุดทำเลยก็คือ ใช้เวลา นอกเหนือจาก 8 ชั่ ว โมงในการเรียนรู้ยุคสมัยนี้เป็นยุคแห่งการเรียนรู้ความรู้เติบโตขึ้น ในอัตราที่ก้าวกระโดดเพราะทุกคนมีอินเตอร์เน็ต สามารถเข้าถึงความรู้ต่างๆได้อ ย่ างรวดเร็ว

4 คนมองอะไรสั้นๆ ตัดสินแค่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าทันที

หลังเรียนจบ Li Ting และ Tan Si เข้าไปฝึกงานที่บริษัทบัญชีแห่งหนึ่งด้วยกัน หลังหมดระยะฝึกงานบริษัทเสนอให้ไปศึกษางานที่สำนักงานใหญ่ที่ต่างประเทศ เป็นเวลา 2 ปีแต่ได้เงินเดือนแค่ครึ่งเดียวไม่มีค่าคอมมิชชั่นให้ Li Ting รู้สึกว่า เงินเดือนน้อยเกินไปแถมไม่คุ้นเคยกับการใช้ชีวิตในต่างแดนด้วย ก็เลยไม่ไป ส่วน Tan Si กล้าตัดสินใจเลือกไปศึกษางานที่สำนักงานใหญ่ในต่างประเทศ ในมุมมองของเธอ เธอคิดว่า ไปศึกษางาน แถมยังได้เงินเดือน

เป็นเรื่องที่คุ้มแสนคุ้ม พอเวลาผ่ า นไป 2 ปี Tan Si กลับมาที่บริษัทในฐานะหัวหน้าโครงการคนใหม่ รายได้ 1 ล้านต่อปี ส่วน Li Ting ยังคงทำงานในตำแหน่งเดิมเงินเดือนในตอนนี้ ไม่ถึง 1 ใน 3 ของ Tan Si เลยด้วยซ้ำ

5 คนที่ไม่เข้าใจการลงทุนในตัวเอง

เรามักจะได้ยินคำเตื อนว่า อย่ าฟุ่มเฟือย แต่ถ้าเราเก็บเงินได้ 1 แสนต่อปี ภายใน 10 ปี เก็บได้ 1 ล้านนี่คือเก่งหรอคำตอบคือ ไม่ใช่ เพราะคุณใช้เวลาตั้ง 10 ปีถึงจะเก็บเงินได้ 1 ล้านแต่คนอื่นอาจจะใช้เวลาแค่ปีเดียว ในการเก็บเงินหนึ่งล้าน คุณต้องรู้ว่า

จะลงทุนกับตัวเองยังไง ถ้าทุกเดือน คุณเอาเงินส่วนหนึ่งมาลงทุนกับตัวเองบ้าง เช่นออกเดินทางเที่ยวรอบโลก เพื่อไปเจอธุรกิจใหม่ๆ ที่น่าสนใจในต่างประเทศแต่ในบ้านเรายังไม่มี ก็นำไอเดียกลับมาต่อยอดเป็นธุรกิจของตัวเอง เป็นต้น

ขอขอบคุณที่มา the-wayoflife chayend

Check Also

คุณว่าผู้หญิงคนไหนแก่ที่สุด จะบอกลักษณะคนทายได้

คุณว่าผู้หญิงคนไหนแก่ที่สุด จะบอกลักษณะคนทายได้ เลือกหม … …