10 ข้อคิดเตือนใจ ในวัยใกล้ 50 เลิกได้ชีวิตที่เหลือจะเป็นสุขกว่าใคร
เพื่อชีวิตวัยใกล้เกษียณที่มั่นคง สงบ และมีความสุขบางอย่ างวัยอย่ างเราไม่สามารถทำตามอย่ างพวกรุ่นหรือทำตามใจตัวเองได้อีก เพราะฉะนั้น อ่านข้อความด้านล่างแล้วจงปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของคุณ เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น
1 หยุดปิดกั้นจิตใจตัวเองที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
ช่วงเวลาที่ผ่ านมาคุณอาจจะพลาดอะไรหลายๆไปเพราะการปิดใจตัวเองไว้เพียงแค่ลองเปิดใจและเรียนรู้ คุณจะพบว่าโลกมันกว้างกว่าที่คุณคิดอ า ยุเลขห้าไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้เรื่องใหม่ๆคบกับเ ด็ กรุ่นใหม่บ้างจะได้เข้าใจสังคมปัจจุบันมากขึ้นและลดปัญหาช่องว่างระหว่างวัย
2 หยุดนึกถึงความล้มเหลวในอดีตที่ผ่ า นมา
เพราะการคิดถึงแต่เรื่องร้ า ยๆที่ผ่ านมาจะทำให้ความสุขที่คุณควรจะได้รับในปัจจุบันหายไปคิดเสมือนว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของคุณ แต่ลงมือทำเสมือนว่าคุณยังมีอ า ยุ ยื นย าวได้ถึงแปดสิบ
3 หยุดโหยหาความรัก
สำหรับคนที่มีครอบครัวกลับมาดูแลคู่ชีวิตและลูกของคุณให้มากขึ้นเขาเหล่านั้นเป็นคนที่หวังดีกับคุณเต็มร้อยโดยไม่มีเงื่อนไขสำหรับชายโสดไม่ง่ายที่จะหาคู่ชีวิตที่รักตัวคุณมากกว่ากระเป๋าสตางค์ของคุณหาหมามาเลี้ยงยังง่ายกว่าสำหรับหญิงโสดคุณคงเคยชินกับชีวิตโสดแล้ว และรู้ว่าอยู่คนเดียวสบายที่สุดแล้ว
4 หยุดการเล่นอินเทอร์เน็ตที่มากเกินไป
คุณควรเริ่มทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันและมีคุณค่าดีกว่าเสียเวลากับ Social Networkยกเว้นว่าคุณใช้ในการติดต่อเพื่อนฝูงเก่าๆ หรือหาข้อมูลข่าวส า รที่เป็นประโยชน์การเล่นเฟซบุ๊ก เล่นไลน์ เล่นได้ แต่ต้องมีการจำกัดเวลาเพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้คุณเสียเวลาและได้ประโยชน์น้อย
5 เลิกกังวลถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย
เช่น ถุงใต้ตา, ตีนกา, เหนียงที่คอ หรือรอยย่นทั้งหลายริ้วรอยเหล่านี้เป็นตัวบอกถึงประสบการณ์ที่คุณผ่ านร้อนผ่ านหนาวมาคุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงความแก่ได้ จงภูมิใจกับมัน ยอมรับมัน และจงแก่อย่ างสง่างาม
6 หยุดทำร้ ายร่างกายของคุณ
เช่น อดนอน, อาหารขยะ, กินโดยไม่ประมาณ, ขับรถเร็วและหันกลับมาดูแลร่างกายด้วยการออกกำลังกายหลายๆคนคงจะผลัดวันและเลี่ยงการออกกำลังกายมาตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มสาวแล้วแต่เมื่ออายุเลขขึ้นห้า หมายความว่า ร่างกายคุณกำลังจะร่วงโรยแล้วดังนั้นควรหันมาใส่ใจกับการออกกำลังกายจริงๆ เสียที
7 หยุดลังเลเกี่ยวกับการทำงานและการหางานใหม่
เมื่ออายุย่ างเข้าวัย 50 คุณควรจะมีงานที่มั่นคงและเป็นงานที่คุณรักจริงๆ ได้แล้วเพราะถ้างานนั่นไม่ใช่ตัวตนของคุณมันก็คงจะสายเกินไปที่จะไปเริ่มใหม่จงอดทนทำต่อไปเพราะคุณคุ้นชินกับมันแล้ว ถ้าจะหางานใหม่น่าจะเป็นงานที่คุณอย ากทำหลังเกษียณมากกว่า
8 หยุดการใช้จ่ายเงินอย่ างฟุ่มเฟือย
ถ้าคุณเริ่มคิดเก็บเงินไว้ใช้หลังเกษียณ ดูเหมือนว่าค่อนข้างจะสายไปแล้วนะอายุเกิน 50 เท่าไร คุณควรมีเงินสะสมที่ใช้หลังเกษียณต่อปีบวกไปอีก 10 ปีเช่น อายุ 51 ควรมีเงินสะสม 10+1=11 ปีอายุ 52 ควรมีสะสม 12 ปี อายุ 60 ควรมีเงินสะสม 20 ปีนั่นเป็นตัวเลขโดยประมาณว่า คุณจะจากไปตอนที่อายุ 80 ปี
9 ลดการทำงานหนักได้แล้ว
ถ้าคุณเป็นมนุษย์เงินเดือนภาคเอกชน อ า ยุ 50ถ้ายังไม่ขึ้นเป็นระดับผู้บริหาร แสดงว่าคุณคงไม่อยู่สายตาเจ้านายเท่าไรอย่ าเสียพลังชีวิตไปกับการทำงานหนักเลยใช้เวลาดูแลสุขภาพตัวเองให้มากขึ้นจะดีกว่า ถ้าคุณขึ้นเป็นระดับผู้บริหารที่ต้องทำงานหนักเพื่อบริษัทก็จัดสรรเวลาให้กับครอบครัวและสุขภาพตัวคุณเองบ้างถ้าคุณเป็นข้าราชการคุณมีความมั่นคงและมีเวลาว่างพอสมควรแล้วใช้เวลาดูแลสุขภาพและเตรียมงานอดิเรกหลังเกษียณได้เลย เช่นกัน ถ้าคุณทำงานอิสระ freelanceคุณสามารถทดลองเกษียณล่วงหน้าได้เลย ถ้าคุณมีเงินพอตามข้อ 1 แล้วถ้าคุณเป็นเจ้าของกิจการคุณคงต้องเริ่มหาผู้ช่วยมือขวาที่ไว้ใจได้มาช่วยคุณบริหารงานได้ โดยคุณสามารถออกมาดูแลห่างๆได้แต่อย่ าหวังว่า ลูกของคุณจะรับภาระนี้ ปล่อยให้เขาเลือกทางเดินชีวิตเองเถิด
10 เลิกแคร์ว่า คนอื่นในสังคมจะคิดถึงคุณอย่ างไร
หน้ากากและหัวโขนจะอยู่กับคุณอีกไม่ถึงสิบปี หัดที่จะปล่อยวางและลดตัวตนของคุณลงบ้างกลับไปหาเพื่อนที่ดีและจริงใจกับคุณจริงๆออกห่างจากคนที่ไม่จริงใจกับคุณหรือคนที่มาเพียงเพื่อจะเอาประโยชน์จากตัวคุณ หรือเอาเปรียบคุณ
ขอขอบคุณที่มา forlifeth