Home ข้อคิด เลี้ยงลูกอย่างไร…ลูกถึงโตไปเป็นคนดีและเก่ง

เลี้ยงลูกอย่างไร…ลูกถึงโตไปเป็นคนดีและเก่ง

3 second read
0
0
694
เลี้ยงลูกอย่างไร…ลูกถึงโตไปเป็นคนดีและเก่ง

เลี้ยงลูกอย่างไร…ลูกถึงโตไปเป็นคนดีและเก่ง

1 ฝึกให้ลูกช่วยเหลือตนเอง

ฝึกให้ลูกช่วยเหลือตนเอง เพื่อเป็นพื้นฐานทักษะอื่นต่อไป เพราะการที่ เ ด็ ก สามารถช่วยเหลือตนเองได้ แ

ละลดการพึ่งพาคนอื่น จะทำให้ เ ด็ ก เกิดความมั่นใจในตัวเอง ลดความกังวล และพร้อมที่จะเรียนรู้ ทักษะอื่นๆในชีวิตประจำวัน

2 ฝึกลูกช่วยงานบ้าน

ฝึกลูกช่วยงานบ้านเริ่มได้ตั้งแต่เล็ก โดยส่วนใหญ่ เ ด็ ก วัย 2 ขวบ เริ่มฟัง และเข้าใจคำสั่งง่ายๆ ดังนั้นเราควรฝึกลูก

ให้ช่วยงานบ้านขั้นพื้นฐาน เช่นเก็บของเล่น หลังเล่นเสร็จแล้วนำเสื้อผ้าที่สวม แล้วไปใส่ตะกร้าเป็นต้น การให้ลูกช่วยงานบ้าน

โดยเริ่มจากสิ่งที่เขา ควรต้องรับผิดชอบเองทำให้ เ ด็ ก ได้เรียนรู้ เรื่องหน้าที่ของตนเอง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อการใช้ชีวิตในสังคม

เมื่อลูกเริ่มโตขึ้น ค่อยเพิ่มหน้าที่ ภายในบ้านให้เหมาะสมกับวัย ลูกก็จะเรียนรู้ว่าสิ่งต่างๆที่ตนทำ มีผลกระทบ

ต่อคนรอบข้าง อ ย่ า ง ไรนับเป็นจุดเริ่มต้น ของการเอาใจเขาใส่ใจเรา

3 ฝึกระเบียบวินัย

ฝึกระเบียบวินัย เพื่อเป็นทักษะการควบคุมตนเอง และยับยั้งชั่งใจให้แก่ลูก นับเป็นพื้นฐานต่อการทน ต่อสิ่งยั่วยุต่างๆ

ในชีวิตประจำวันซึ่งสามารถทำได้ ตั้งแต่เล็กๆ อาทิการตื่นนอน และเข้านอนให้เป็นเวลา รับประทานอาหารเป็นเวลา

การเก็บของเล่นให้เป็นที่เป็นทาง หลังเล่นเสร็จแล้ว ไม่รับประทานขนม หรืออาหารในห้องนอนเป็นต้น

4 การพาลูกพบคนหลากหลาย

การพาลูก พบคนหลากหลาย นับเป็นการฝึกให้ลูก มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น และเข้าใจสังคมมากขึ้น คือทำให้เขาเห็นว่า

ในโลกนี้มีคนที่แตกต่าง หลากหลาย ทั้งสีผิว เ ชื้ อ ชาติภาษา และความคิดซึ่งสิ่งที่แตกต่างเหล่านี้ ไม่ได้แปลว่าผิดเสมอไป

การพาลูกออกเดินทางท่องเที่ยว ได้เห็นวิถีชีวิตผู้คน ที่แตกต่างพร้อมกับคำชี้แนะ

ที่เหมาะสมจะทำให้ ลูกเข้าใจความเป็นไป ของโลกใบนี้ได้ดีขึ้น

5 สอนเรื่องอารมณ์ต่างๆ

สอนเรื่องอารมณ์ต่างๆ พ่อแม่มักให้ความสำคัญ กับการสอนลูกให้เป็นเลิศในด้านวิชาการ สอนเรื่องมารย าท กฎระเบียบ

แต่กลับลืมเรื่องการรับมือกับอารมณ์ ตั้งแต่ลูกยังเล็ก ดังนั้นพ่อแม่ควรเริ่มต้น สอนให้ลูกรู้จักอารมณ์ต่างๆ ของตนด้วยการเอ่ยชื่อ

อารมณ์นั้นๆ เมื่อลูกแสดงออกมาอาทิเมื่อลูกร้องไห้ ที่ไม่ได้ของเล่น อาจบอกลูกว่าแม่รู้ว่าลูกกำลังเสียใจ ที่ไม่ได้ของเล่น

หรือเมื่อลูกโกรธที่ถูกแย่งขนม ต้องบอกว่าลูกกำลังโกรธใช่ไหมแต่แม่อย ากให้ลูก หายใจลึกๆใจเย็นๆการสอนเช่นนี้

จะช่วยทำให้ลูก เรียนรู้ที่จะจัดการกับอารมณ์ของตนเมื่อโตขึ้น และไม่นำอารมณ์ของตนเอง มาเป็นข้ออ้าง ในการทำร้ ายคนอื่น

6 สร้างแรงบันดาลใจด้วยเรื่องเล่า

สร้างแรงบันดาลใจด้วยเรื่องเล่า สำหรับ เ ด็ ก เล็ก โลกของเขายังไม่กว้างใหญ่มากนัก การเล่าเรื่องราวต่างๆจากนิทาน

หรือเกร็ดประวัติศาสตร์ อ ย่ า ง ง่ายๆ เกี่ยวกับบุคคล ที่ทำเพื่อผู้อื่นจะช่วยทำให้ลูกเข้าใจ เรื่องการช่วยเหลือกันในสังคมได้ดีขึ้น

คนเป็นพ่อแม่ อาจถามลูกว่า หากเกิดเหตุการณ์ อ ย่ า ง ในนิทานขึ้นกับลูกลูกจะทำ อ ย่ า ง ไร ลองฟังคำตอบของลูกแล้วชื่นชม

หรือตั้งคำถาม เพื่อชี้แนะแนวทาง ที่ถูกหลีกเลี่ยง ที่จะวิจารณ์ และตัดสินว่า คำตอบของลูกถูกหรือผิด

เพื่อให้ลูกได้ฝึกคิด ด้วยตนเองโดยมีพ่อแม่ เป็นผู้ชี้นำแนวทางที่เหมาะสม

7 สอนลูกให้รู้จักแก้ปัญหา

สอนลูกให้รู้จักแก้ปัญหา บ่อยครั้งที่ลูกทำผิดพลาด พ่อแม่หลายคนจะใช้วิธีตำหนิ หรือดุลูก เพื่อไม่ให้ลูกทำผิดอีก

ซึ่งจะทำให้ เ ด็ ก คิดว่าการทำผิดเป็นเรื่องใหญ่และกลัวที่จะทำผิด หรือจะปกปิดความคิดของตนเอง โดยการโกหก

ดังนั้นพ่อแม่ควรเริ่มต้น ในการให้ อ ภั ย ลูก แล้วชวนลูกแก้ไข้ปัญหา หลังจากที่เกิดข้อผิดพลาด อาทิ เ ด็ ก วิ่งแล้วทำน้ำหก

พ่อแม่ควรฝึกให้ เ ด็ ก รับผิดชอบในสิ่งที่ทำ คือเช็ดน้ำและเก็บแก้วให้เป็นที่ หลังจากนั้นชวนให้ลูกคิดว่า

ครั้งหน้าสามารถระวัง อ ย่ า ง ไร ให้ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก นอกจากเรื่องที่แม่ต้องสอนลูกแล้ว พ่อแม่ผู้ปกครองคนในครอบครัว

ก็ต้องเป็นต้นแบบ หรือแบบ อ ย่ า ง ที่ดีให้แก่ เ ด็ ก เพราะการเห็นแบบ อ ย่ า ง ที่ดี จะทำให้ เ ด็ ก

สามารถจดจำการทำดี ได้มากกว่าการใช้เพียงคำพูด การเลี้ยงลูกต้องใช้ความอดทน ความเข้าใจเป็นสำคัญนะคะ

กว่าที่ลูกจะรู้เรื่อง และทำตามในสิ่งดีๆก็ต้องใช้เวลาฝึกฝน ปฏิบัติเป็นประจำหากพ่อแม่หมั่นสอน

สิ่งสำคัญที่จำเป็น ต้องสอนลูกลูกก็จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี  อย่ างแน่นอน

ขอขอบคุณที่มา stand-smiling

Check Also

ท่านอนของคุณ บ่งบอกนิสัยของคุณได้

ท่านอนของคุณ บ่งบอกนิสัยของคุณได้ 1 ท่านอนหงาย   ถ … …